โหนกระแสแม่ตั๊ก

ทองปลอมหรือจริง? โหนกระแสแม่ตั๊ก กรณีพิพาททองคำในไลฟ์สด

โหนกระแสแม่ตั๊ก พิสูจน์ความจริงทองคำแท้หรือปลอม “ป๋าเบียร์” ออกมาพูดแทนภรรยา แม่ค้าดัง กับข้อกล่าวหาหลอกขายทองผ่าน TikTok
โหนกระแสวันนี้พาผู้ชมเข้าสู่ดราม่าร้อนแรงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของ “แม่ตั๊ก” แม่ค้าทองชื่อดังบน TikTok ที่ถูกตั้งคำถามว่าทองที่ขายนั้นเป็นทองปลอม โดยมีผู้เสียหายนำทองไปขายที่ร้านอื่น แต่กลับไม่มีใครรับซื้อ เพราะเชื่อว่าไม่มีเปอร์เซ็นต์ทองจริงๆ รายการนี้ได้พิสูจน์ความจริง พร้อมรับฟังข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย

เหตุการณ์สำคัญ: ทองแท้หรือทองปลอม?

ผู้ใช้ TikTok ที่ชื่อ “ฝ้าย” เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ออกมาเปิดเผยว่า เธอซื้อกำไลปี่เซียะจากแม่ตั๊ก ในราคากว่า 30,000 บาท แต่เมื่อนำไปขาย กลับได้เพียง 9,000 บาท เนื่องจากร้านทองไม่รับซื้อ เพราะน้ำหนักจริงของทองนั้นน้อยกว่าที่อ้างอิงไว้ในไลฟ์สด ทำให้ผู้บริโภคสงสัยว่า ทองที่ซื้อมาแท้จริงแล้วเป็นทองแท้หรือปลอมกันแน่

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการทองคำ

นายสมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ กรรมการสมาคมค้าทองคำ ระบุว่าการที่ร้านทองไม่รับซื้อทองปี่เซียะนั้น อาจเป็นเพราะไม่มีการประทับตรา และไม่มียี่ห้อ ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญในการรับซื้อทองทั่วไปในตลาด ทั้งนี้ การทำทองรูปพรรณที่ใช้เทคโนโลยี Electrofoming ก็อาจทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทองที่ขึ้นรูปนั้นไม่ได้มีเปอร์เซ็นต์ทองแท้เต็ม 100%

มุมมองจาก สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค)

นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. ได้ออกมาชี้แจงว่าผู้บริโภคมีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครอง หากพบว่าการโฆษณาขายทองในไลฟ์สดมีเจตนาทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิด อาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการเยียวยาผู้บริโภคในบางกรณี แต่กระบวนการทางกฎหมายก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปจนถึงที่สุด

คำยืนยันจาก “แม่ตั๊ก”

ในรายการ “โหนกระแส” แม่ตั๊กและสามี “ป๋าเบียร์” ยืนยันว่าทองที่ขายในร้านของตนไม่ได้เป็นทองปลอม โดยเฉพาะทองที่เป็นเครื่องรางปี่เซียะที่มีเปอร์เซ็นต์ทองน้อยกว่า 100% แต่ยังคงเป็นทองจริง อีกทั้งยังยอมรับว่า บางครั้งการอธิบายผ่านไลฟ์สดอาจไม่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด พร้อมกันนี้ แม่ตั๊กยังเสนอให้ผู้ที่ต้องการคืนทองสามารถนำมาขายคืนได้ในราคาที่ซื้อมาตอนแรก

ความเห็นจากลูกค้าและผู้เสียหาย

ผู้เสียหายบางรายแสดงความไม่พอใจต่อคำพูดของแม่ตั๊กในไลฟ์สด โดยเฉพาะการกล่าวว่า “เงินอยู่ในกระเป๋าเรา ไม่พอใจก็อย่าชักออกมา” ทำให้หลายคนรู้สึกถูกดูหมิ่น นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายที่ต้องการดำเนินคดีกับแม่ตั๊กในเรื่องการโฆษณาที่เข้าข่ายฉ้อโกง

สรุป

ประเด็นดราม่าการขายทองของแม่ตั๊กผ่านไลฟ์สดยังคงเป็นที่สนใจของสังคม โดยมีทั้งผู้เสียหายที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและต้องการดำเนินคดี ขณะที่แม่ตั๊กเองก็ได้ออกมายอมรับข้อผิดพลาดบางประการ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการขายทอง ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้บริโภคควรตระหนักถึงข้อมูลที่ชัดเจนก่อนการตัดสินใจซื้อขายทอง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต